ปัญญามี 2 ระดับ คือ
1. ปัญญาโลกีย์
2. ปัญญาโลกุตระ
1. ปัญญาโลกีย์ หากเราไม่ภาวนาฝึกปฏิบัติ อบรมตนเอง ถึงจะมีปัญญาเพียงใด เป็นเพียง ปัญญาโลกีย์ จะหลุดพ้นไปไม่ได้ มันเวียนตามโลก จิตเป็นโลก คิดแต่จะหามาใส่ตัว อยู่ไม่เป็นสุข หาไม่รู้จักพอ วิชาโลกีย์กลายเป็นอวิชา หาใช่วิชาความรู้แจ้งไม่ ไม่จบสักที ตามลาภ ยศ สรรเสริญ ทำใจให้ติดข้อง กิเลสกองใหญ่
2. ปัญญาโลกุตระ อยู่ได้ยาก ผู้ใดหวัง มรรค ผล นิพพาน จึงจะทนอยู่ได้ ทำตนเป็นคนมักน้อยสันโดษ กินน้อย นอนน้อย พูดน้อย ทำให้มันหมดโลกีย์ (ความใคร่ในความสุขความทุกข์ ความดี ความชั่ว) ปฏิบัติให้หมดอุปทาน พิจารณาซ้ำแล้ว ซ้ำอีก ให้มันเพื่อให้หน่าย จะเกิดนิพพาน ซึ่งเกิดได้ยาก ต้องเห็นโทษในกาม เห็นประโยชน์ในการละกามจึงจะทำได้